ทำงานหนักเพื่อพระเจ้า
ดังนั้น ลูกชายของข้าเอ๋ย จงเข้มแข็งในพระคุณซึ่งมีอยู่ในพระเยซูคริสต์และสิ่งซึ่งเจ้าได้ยินจากข้าท่ามกลางพยานหลายคน ก็ให้เจ้าส่งต่อให้กับคนที่ซื่อตรงซึ่งเป็นคนที่สอนคนอื่นได้ด้วย
2 ทิโมธี 2:1-2
1 ทิโมธี 1:2, เอเฟซัส 6:10, สดุดี 40:10, 78:4
อย่างแรกคือ ท่านเปาโลขอให้เข้มแข็งในพระคุณของพระเยซูคริสต์ ไม่ใช่เข้มแข็งด้วยกำลังของตนเอง อย่างที่สองคือ การส่งต่อพระคำของพระเจ้าให้กับคนที่จะส่งต่อไปให้คนรุ่นต่อไป
เจ้าจะต้องอดทนต่อความยากลำบากเหมือนว่าเจ้าเป็นทหารที่ดีของพระเยซูคริสต์ ไม่มีใครที่เข้าไปพัวพันในสงครามจะวุ่นวายอยู่กับ เรื่องของชีวิตนี้ เพราะเขาจะต้องพยายามทำให้ผู้บังคับบัญชาของเขาพอใจ
2 ทิโมธี 2:3-4
2 ทิโมธี 4:5, 1 ทิโมธี 1:18,มัทธิว 16:24
คนที่เป็นทหารที่ค่อย ๆ ได้รับการเลื่อนขั้นตามลำดับรู้ดีว่า การเป็นทหารที่ซื่อตรงต่อผู้บังคับบัญชานั้นต้องควบคุมตนเอง เอาชนะตนเองขนาดไหน ต้องทิ้งตัวตนและหลาย ๆ อย่างในชีวิต หากผู้เชื่อไม่ได้มีความอดทนต่อความลำบาก ก็ยากที่จะทำอะไรสำเร็จเพื่อพระเจ้าได้ …
และเช่นกัน หากคนใดแข่งขันกีฬา เขาจะไม่ได้รับมงกุฎ ยกเว้นเสียแต่ว่าเขาแข่งตามกติกา เกษตรกรที่ทำงานหนัก สมควรเป็นคนแรกที่ได้รับ
ส่วนแบ่งจากพืชผลที่ได้มา
2 ทิโมธี 2:5-6
1 โครินธ์ 9:10,24,25, เอเฟซัส 6:12, ฮีบรู 6:7
คนของพระเจ้าจะดำเนินชีวิตตามกติกาของพระเจ้าเหมือนนักกีฬา ประเด็นคือ นักกีฬาต้องทำตามกติกา ทำตามใจตัวไม่ได้ ส่วนเกษตรกร ก็ไม่ใช่คนทำอะไรหยิบโหย่ง เขาทำงานหนักมาก พระเจ้าไม่มีที่ให้กับคนเกียจคร้าน
จงไตร่ตรองใคร่ครวญถึงสิ่งที่ข้ากล่าวมา ขอพระผู้เป็นเจ้าประทานความเข้าใจทุกสิ่งให้แก่เจ้า
2 ทิโมธี 2:7
สุภาษิต 2:6
ผู้รับใช้ของพระเจ้าเป็นเหมือนทั้ง
ทหาร-ถ้าไม่สู้ก็ไม่เห็นชัยชนะ
นักกีฬา-ถ้าหยุดแข่งก็ไม่มีเหรียญเกษตรกร-ถ้าเกียจคร้านก็ ไม่ได้พืชผล
ยึดมั่นในความจริง
จงจำไว้ว่า พระเยซูคริสต์ซึ่ง
ทรงเป็นผู้สืบเชื้อสายของดาวิด ได้ทรงคืนชีพจากความตาย
นี่เป็นข่าวประเสริฐที่ข้าประกาศ ข้าทนทุกข์ก็เพื่อข่าวประเสริฐนี้ ข้าถึงกับถูกล่ามโซ่ราวกับโจร แต่พระคำของพระเจ้าไม่มีใครล่ามโซ่เอาไว้ได้
2 ทิโมธี 2:8-9
1 โครินธ์ 15:20, มัทธิว 1:1, โรม 2:16,ฟีลิปปี 1:7,13, 2 ทิโมธี 4:17
การคึนชึพของพระเยซูนั้น เป็นสาระสำคัญยิ่งของความเชื่อ พระองค์ทรงอยู่กับทิโมธี และทิโมธีจะต้องยึดข่าวประเสริฐนี้ไว้ คำว่า โจร.. ในที่นี้ แรงมาก คริสเตียนถูกมองว่าเป็นอาชญากรในโลกโบราณ
ดังนั้นข้าจึงอดทนต่อทุกสิ่ง
เพื่อเห็นแก่คนที่ถูกเลือกไว้
เพื่อว่าพวกเขาจะได้รับความรอดในพระเยซูคริสต์พร้อมกับพระสิริรุ่งโรจน์นิรันดร์
2 ทิโมธี 2:10
เอเฟซัส 3:13, โคโลสี 1:24, 1 โครินธ์ 13:7, 2 โครินธ์ 1:6, 1 เปโตร 5:10
ท่านเปาโลยินดีอดทน เผชิญต่อทุกสิ่งตราบใดที่พระกิตติคุณเผยแผ่ออกไป
ดูคนที่เคยข่มเหงพระคำของพระเจ้ามาเวลานี้ กลายเป็นคนที่ส่งเสริม ประกาศ พร้อมพลีชีวิตเพื่อคำที่เขาเคยข่มเหง
ข้อความนี้เป็นคำสัตย์จริง
เพราะหากว่าเราตายกับพระองค์
เราจะได้มีชีวิตกับพระองค์
ถ้าเรายืนหยัดอดทน
เราจะได้ครองกับพระองค์
2 ทิโมธี 2:11-12a
1 ทิโมธี 1:15, 1 เธสะโลนิกา 5:10, โรม 6:8, วิวรณ์ 20:4, 2 เธสะโลนิกา 1:4-5, โรม 8:17,
การตายกับพระองค์นั้น มีความหมายสองทาง คือบัพติศมาและการถูกข่มเหงเพื่อพระนาม .. ซึ่งในช่วงเวลานั้นเกิดการข่มเหงเป็นอย่างมาก
ความอดทนเป็นสิ่งที่โดดเด่นของผู้ที่เป็นคริสเตียนสมัยนั้น! ที่เป็นเช่นนั้นเพราะความหวังอันมีชีวิตเช่นนี้
หากเราไม่รับพระองค์
พระองค์จะทรงไม่รับเราเช่นกัน หากเราไร้ความจงรักภักดี
พระองค์ยังคงซื่อตรง
เพราะพระองค์ไม่อาจ
ปฏิเสธความเป็นพระองค์เอง
2 ทิโมธี 2:12b-13
ฮีบรู 10:36, มัทธิว 10:33 ,โรม 3:3, 1 โครินธ์ 1:9, กันดารวิถี 23:19, ทิตัส 1:2
และหากเราปฏิเสธพระองค์ พระองค์ก็จะไม่รับเรา การไม่รับพระองค์นี้เป็นได้ทั้งจากการกระทำและคำพูดของเรา
แต่ไม่ว่าเราจะเป็นอย่างไร พระเจ้ายังทรงซื่อตรงต่อทุก ๆ คำที่พระองค์ตรัสไว้
เอาใจใส่สิ่งที่สำคัญ
เตือนสติคนของพระเจ้าเรื่องนี้ด้วย และกำชับพวกเขาต่อพระพักตร์
พระเจ้าไม่ให้โต้เถียงกันในเรื่องคำ ซึ่งไม่เป็นผลดี มีแต่จะทำลายคนที่ฟัง
2 ทิโมธี 2 :14
1 ทิโมธี 5:21,6:4,6:13, ทิตัส 3:9,
สิ่งที่ท่านกล่าวมาทั้งหมด ไม่ให้เก็บไว้คนเดียว แต่ให้ทิโมธีเตือนคนอื่นด้วยและให้หยุดการโต้เถียงเอาชนะกัน ที่ทำให้คนฟังหายนะ
จงขยันหมั่นเพียรเต็มที่ เพื่อพระเจ้าจะทรงรับรองยอมรับเจ้าเป็นคนทำงานที่ไม่ต้องอาย จัดการดูแลคำแห่งความจริงอย่างถูกต้อง
2 ทิโมธี 2 :15
ฟีลิปปี 1:20, 1 ยอห์น 2:28
คำเตือนของท่านเปาโลชัดเจนมากที่จะให้ทิโมธี ทำงานแบบที่พระเจ้าจะทรงชมเขาในวันสุดท้าย มีการใช้ความจริงของพระเจ้าอย่างตรงไปตรงมาเหมือนช่างอิฐที่ก่ออิฐอย่างงดงามไม่คดเคี้ยว คนทำงาน (ergaten)ในที่นี้ หมายถึงการงานที่ใช้แรงงานเป็นหลัก
จงหลีกเลี่ยงคำพูด ไร้สาระโง่เขลา มันยิ่งนำไปสู่ความตกต่ำไร้พระเจ้า คำพูดเหล่านั้นจะแพร่กระจายไปเหมือนเนื้อตายเน่า พวกนั้นรวมถึงฮีเมเนอัสกับฟีเลทัสด้วย เป็นคนที่หลงไปจากความจริงโดยกล่าวว่า การฟื้นคืนชีพเกิดขึ้นไปแล้ว เป็นการ ทำลายความเชื่อของพี่น้องบางคน
2 ทิโมธี 2:16-18
ทิตัส 3:9, 1 ทิโมธี 6:20, 1:20, 1 โครินธ์ 15:12,
คำที่ดูเหมือนฉลาดแต่โง่ในทางพระเจ้านี้ ทำให้คนมากมายหลงทางไป เป็นไปได้ที่คริสเตียนที่ภักดี แต่กลับไม่เข้าใจทางของพระเจ้าก็อาจหลงไปด้วย
แต่รากฐานอันมั่นคงของพระเจ้า
ยังคงอยู่ โดยมีการประทับตราว่า
“องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทราบว่าใครเป็นของพระองค์”
และ “ให้ทุกคนที่ออกพระนามของ
องค์พระผู้เป็นเจ้าละทิ้งความชั่ว”
2 ทิโมธี 2:19
กันดารวิถี 16:5, เนหะมีย์ 1:7, ยอห์น 10:14,27, ลูกา 13:27, 1 โครินธ์ 8:3,
อิสยาห์ 26:13,อิสยาห์ 52:11
แม้มีผู้เชื่อที่หลงไป แต่คริสตจักรของพระเจ้าจะดำรงอยู่ มั่นคง ศิลามุมเอกจะเป็นรากฐานมั่นคง อิสยาห์ 27:16
การประทับตรานั้นบ่งว่า เขาเป็นของพระเจ้า เขามีความมั่นคงปลอดภัย และเขาเป็นของแท้
ดำเนินชีวิตที่พระเจ้าจะทรงใช้ได้
ในบ้านใหญ่หลังหนึ่งไม่ได้มีแค่ภาชนะทองและเงิน แต่ยังมีไม้และดินด้วย บ้างก็ใช้ในงานมีเกียรติ บ้างก็ใช้ในงานธรรมดา ดังนั้น หากใครชำระตัวเองจากสิ่งที่ไร้เกียรติ เขาก็จะเป็นภาชนะที่ใช้ในงานมีเกียรติ ถูกแยกไว้เป็นของบริสุทธิ์ มีประโยชน์สำหรับเจ้าบ้าน พร้อมสำหรับงานที่ดีทุกอย่าง
2 ทิโมธี 2:20-21
1 ทิโมธี 3:15, โรม 9:21, สุภาษิต 25:4, อิสยาห์ 52:11, 2 ทิโมธี 3:17,ทิตัส 3:1,1 ทิโมธี 5:10
ตอนนี้ท่านเปาโลกำลังหมายถึงคริสเตียนที่รับใช้พระเจ้าอย่างซื่อตรง
มีความมั่นคงในการติดตามพระเจ้า กับคนที่บอกว่าเชื่อพระเจ้าแต่ไม่ถวายเกียรติพระเจ้า สอนผิด หากคนใดหลีกเลี่ยงจากสิ่งไร้เกียรติ พระเจ้าก็จะทรงใช้เขาได้ในบ้านหลังใหญ่ ซึ่งน่าจะหมายถึงคริสตจักรของพระเจ้านั่นเอง
ดังนั้นให้หลีกหนีจากความเร่าร้อนของคนหนุ่ม และตามติดความชอบธรรม ความเชื่อ ความรักและสันติ พร้อมไปกับคนที่ร้องเรียกองค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยใจใสสะอาด
2 ทิโมธี 2:22
1 ทิโมธี 6:11,4:12, กิจการ 7:59,9:14,
1 ทิโมธี 1:5
กล่าวโดยสรุป ท่านเปาโลขอให้ทิโมธีหลีกหนี วิ่งออกจากหัวใจคนหนุ่มที่เร่าร้อนเรื่องต่าง ๆในทางตรงข้ามเขาจะต้องวิ่งหาการประพฤติถูกต้อง ความเชื่อ รักพี่น้อง รักสันติ พร้อมๆ ไปกับพี่น้องในคริสตจักร
อย่าไปยุ่งกับการโต้แย้งที่โง่เขลาไร้สาระ เจ้าก็รู้ว่ามันยิ่งก่อให้เกิดการทุ่มเถียงกันเพิ่มขึ้นอีก ผู้รับใช้ขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะต้องไม่เป็นคนช่างทะเลาะ แต่ต้องมีน้ำใจดีต่อทุกคนมีทักษะการสอน อดทนเมื่อคนอื่นทำผิดต่อเขา
2 ทิโมธี 2:23-24
1 ทิโมธี 6:4, 1 ทิโมธี 3:3, 1 เธสะโลนิกา 2:7, 1 ทิโมธี 3:2
ยิ่งกว่านั้น ต้องหลีกหนีจากการโต้เถียงให้ได้ ปฏิเสธไม่เข้าสู่การตอบโต้ เราจะเห็นว่าโลกข้างนอกก็มีการโต้เถียงการต่อต้านกันมากมายอยู่แล้ว
ต้องไม่ให้พฤติกรรมแบบนั้นเข้ามาในคริสตจักรชัดเจนว่าคนของพระเจ้าต้องมีลักษณะอย่างไร น้ำใจดี อดทน ไม่ช่างทะเลาะ
และแก้ไขความผิดของฝ่ายตรงข้ามอย่างอ่อนสุภาพ เผื่อว่าพระเจ้าจะทรงให้เขากลับใจ ทำให้เขารู้ความจริง และเขาจะได้กลับมามีสติ และหนีจากกับดักมารที่พยายามจับเขาเป็นเชลยเพื่อให้ทำตามใจของมัน 2 ทิโมธี 2:25-26
กาลาเทีย 6:1, ทิตัส 3:2, 1 ทิโมธี 6:11, 1 เปโตร 3:15, ดาเนียล 4:27, กิจการ 8:22
คนของพระเจ้าจะต้องสอนเป็น อดทน และน้ำใจดี เราหลายคนอาจขาดสิ่งเหล่านี้ แต่สร้างได้ ต้องไม่ลืมว่า เวลาเตือนสติคนอื่น เรากำลังช่วยให้เขาพ้นกับดักมารที่หลอกล่อให้คนตกต่ำลงไปเรื่อย ๆ